ในยุคที่ค่าไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายคนเริ่มหันมาศึกษาวิธีการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าในบ้านหรือโรงงานมากขึ้น หนึ่งในคำที่มักได้ยินเมื่อพูดถึงระบบโซล่าเซลล์ หรือการวางแผนลดค่าไฟคือ “มิเตอร์ TOU” หรือ Time of Use Meter ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการคิดอัตราค่าไฟฟ้าแบบแยกช่วงเวลา
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า TOU Meter คืออะไร มีกี่แบบ ใช้กี่เฟส และสามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้จริงหรือไม่ เหมาะกับใคร และควรติดตั้งเมื่อใด
มิเตอร์ TOU คืออะไร?
TOU ย่อมาจาก Time of Use หรือ “อัตราค่าไฟฟ้าแบบแยกช่วงเวลา” หมายถึงการที่การไฟฟ้าจะคิดค่าไฟในแต่ละช่วงเวลาของวันไม่เท่ากัน โดยหลักการคือช่วงที่มีการใช้ไฟสูงสุด (Peak) จะมีค่าไฟแพงกว่าช่วงที่มีการใช้ไฟน้อย (Off-Peak)
มิเตอร์ TOU คือมิเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถวัดและแยกพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ตามช่วงเวลาได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถคิดค่าไฟแยกเป็นช่วงเวลาได้ เช่น:
- On-Peak (ช่วงเวลาที่มีการใช้ไฟสูง): ค่าไฟแพงที่สุด
- Off-Peak (ช่วงเวลาที่ใช้ไฟน้อย): ค่าไฟถูกกว่ามาก
- Mid-Peak (บางกรณี): ค่าไฟอยู่ในระดับกลาง (เฉพาะบางพื้นที่หรือผู้ใช้)
มิเตอร์ TOU มีกี่แบบ?
มิเตอร์ TOU สามารถแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้หลักๆ ดังนี้:
- มิเตอร์ TOU แบบ 1 เฟส
- ใช้ในบ้านพักอาศัยทั่วไปหรือสำนักงานขนาดเล็ก
- รองรับการใช้ไฟฟ้าขนาดไม่เกิน 5 kW
- มีการคิดค่าไฟตามช่วงเวลา แต่โครงสร้างราคาน้อยกว่าระบบโรงงาน
- มิเตอร์ TOU แบบ 3 เฟส
- เหมาะสำหรับโรงงาน อาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ หรือบ้านที่ใช้ไฟเยอะ (เช่นมีแอร์หลายตัว เครื่องจักร ฯลฯ)
- สามารถรองรับไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 15–100 kW ขึ้นไป
- มีการคำนวณค่า Ft และ Demand Charge ร่วมด้วย
อัตราค่าไฟตาม TOU เป็นอย่างไรบ้าง?
โดยทั่วไป การไฟฟ้าจะกำหนดอัตราค่าไฟ TOU แยกตามประเภทผู้ใช้:
- ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มบ้านอยู่อาศัย:
- On-Peak: ประมาณ 5.80–6.50 บาท/หน่วย
- Off-Peak: ประมาณ 2.80–3.20 บาท/หน่วย
- ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มธุรกิจ / โรงงาน:
- On-Peak: ประมาณ 6.00–6.80 บาท/หน่วย
- Off-Peak: ประมาณ 2.50–3.00 บาท/หน่วย
- มีค่าดีมานด์ชาร์จเพิ่มเติม: เช่น 200–300 บาท/กิโลวัตต์ของการใช้สูงสุด
ช่วงเวลา Off-Peak มักอยู่ในช่วงกลางคืนถึงเช้า เช่น 22:00–08:00 น. ส่วน On-Peak คือช่วงกลางวันถึงหัวค่ำ เช่น 08:00–22:00 น.
TOU ช่วยลดค่าไฟได้จริงหรือไม่?
คำตอบคือ “ได้” แต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า ซึ่งการจะลดได้หรือไม่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยครับ เพราะฉะนั้น มิเตอร์ TOU จะช่วยลดค่าไฟได้คุ้มในกรณีนี้
✅ ลดได้คุ้ม ถ้า
- บ้านหรือโรงงานมีการใช้ไฟมากในช่วง Off-Peak เช่น ใช้เครื่องจักรกลางคืน เปิดแอร์เฉพาะกลางคืน
- ใช้ร่วมกับระบบโซล่าเซลล์ที่ผลิตไฟใช้เองกลางวัน แล้วใช้ไฟการไฟฟ้าช่วงกลางคืน (ที่ราคาถูกกว่า)
- มีการจัดการโหลดไฟฟ้า เช่น ตั้งเวลาการใช้งานอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับช่วงที่ไฟราคาถูก
❌ ลดไม่คุ้ม ถ้า
- ใช้ไฟเยอะในช่วงกลางวัน (On-Peak) อยู่แล้ว เช่น เปิดแอร์ เปิดเครื่องจักรกลางวันอย่างหนัก
- ไม่มีพฤติกรรมหรือระบบที่จะเปลี่ยนเวลาการใช้ไฟได้
หากยังไม่แน่ใจว่าติดมิเตอร์ TOU คุ้มไหม? ทางคุ้มไวโซล่า เราแนะนำให้ติดโซล่าเซลล์ไปก่อน และติดตามดูการใช้ไฟใน Application เพื่อประเมินกันอีกรอบ ซึ่งจะใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์หลังจากติด โซล่าเซลล์ ประมาณ 1 เดือน
ใครควรใช้มิเตอร์ TOUบ้าง ใครใช้แล้วคุ้มค่าที่สุด?
1. ผู้ติดตั้งระบบโซล่าเซลล์แบบ On-Grid / Hybrid
ตัวอย่าง: โรงงานขนาดกลางที่ติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ขนาด 100kW ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวัน (On-Peak) เพื่อลดการใช้ไฟ และใช้ไฟจากการไฟฟ้าในช่วงกลางคืนที่ค่าไฟถูกกว่า (Off-Peak)
ซึ่งการใช้ไฟเช่นนี้ สามารถช่วยลดค่าไฟรายเดือนได้กว่า 40% เมื่อรวมกับการใช้มิเตอร์ TOU เลยทีเดียว
2. โรงงานหรือสำนักงานที่สามารถปรับช่วงเวลาใช้งานหลักให้ไปอยู่ในช่วง Off-Peak
ตัวอย่าง: สำนักงานที่ตั้งเวลาระบบคอมพิวเตอร์แบบอัตโนมัติให้เริ่มงานตั้งแต่ 22:00 น. ถึง 08:00 น. หรือเครื่องจักรในโรงงานที่ใช้ระบบ Automation และควบคุมผ่านระบบ IoT
3. บ้านพักที่มีพฤติกรรมใช้ไฟหลักในเวลากลางคืน
ตัวอย่าง
- ครอบครัวที่เปิดแอร์ทั้งคืนและปิดในช่วงกลางวัน
- ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ชาร์จไฟในช่วงกลางคืน
- บ้านที่ใช้ระบบ Smart Home เช่น ตั้งเครื่องซักผ้า หรือเครื่องทำน้ำอุ่นให้ทำงานอัตโนมัติหลัง 22:00 น.
วิธีขอติดตั้งมิเตอร์ TOU (อย่างละเอียด)
สำหรับใครที่มั่นใจแล้ว อยากจะเปลี่ยนมาใช้มิเตอร์แบบ TOU ก็ไม่ยากครับ การเปลี่ยนมาใช้มิเตอร์ TOU สามารถดำเนินการได้ โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
1. ติดต่อการไฟฟ้าเขตพื้นที่
เริ่มจากติดต่อสำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (MEA) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ที่ดูแลพื้นที่ของคุณ โดยแจ้งความประสงค์ว่าต้องการเปลี่ยนมาใช้ระบบมิเตอร์ TOU (Time of Use)
2. ตรวจสอบความพร้อมของระบบไฟ
เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าหรือวิศวกรไฟฟ้าจะเข้ามาตรวจสอบระบบไฟภายในบ้านหรือโรงงาน เพื่อประเมินว่าระบบสามารถรองรับมิเตอร์ TOU ได้หรือไม่ โดยทั่วไปต้องมีเงื่อนไขดังนี้:
- ตู้ไฟและระบบสายดินต้องได้มาตรฐาน
- อุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้า เช่น เซอร์กิตเบรกเกอร์ ต้องอยู่ในสภาพดี
- แนะนำให้มีช่างไฟฟ้าภายในที่มีใบรับรองดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้นก่อนยื่นเรื่อง
3. จัดเตรียมเอกสารและยื่นคำร้อง
เมื่อระบบพร้อม สามารถยื่นคำร้องเปลี่ยนมิเตอร์ได้ โดยเอกสารที่ต้องใช้ ได้แก่:
- สำเนาบัตรประชาชนผู้ขอ
- สำเนาทะเบียนบ้าน (หรือเอกสารสิทธิ์ในสถานที่)
- สำเนาใบแจ้งค่าไฟฟ้าล่าสุด
- แบบคำร้องของการไฟฟ้า (ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ MEA/PEA)
อาจมีค่าธรรมเนียมเปลี่ยนมิเตอร์ ขึ้นอยู่กับประเภทเฟสและขนาดมิเตอร์ (ส่วนใหญ่ไม่เกิน 2,000–4,000 บาท)
4. การดำเนินการติดตั้งมิเตอร์ TOU
หลังจากการไฟฟ้าตรวจสอบเอกสารและอนุมัติคำร้อง เจ้าหน้าที่จะนัดเข้าติดตั้งมิเตอร์ TOU ให้ โดยระยะเวลาดำเนินการประมาณ 7–14 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับคิวงานในพื้นที่นั้นๆ)
เมื่อเปลี่ยนมิเตอร์เสร็จ คุณจะเริ่มถูกคิดค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลา (TOU Rate) ตั้งแต่รอบบิลถัดไปเป็นต้นไป นั่นเอง
สรุป
มิเตอร์ TOU คือเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการบริหารค่าไฟอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับระบบโซล่าเซลล์หรือมีการจัดการโหลดไฟฟ้าอย่างเหมาะสม จะช่วยลดค่าไฟในระยะยาวได้อย่างแน่นอน 100% และเป็นอีกหนึ่งแนวทางสู่การใช้พลังงานอย่างชาญฉลาดในยุคพลังงานแพง
หากคุณกำลังวางแผนติดตั้งโซล่าเซลล์และสนใจใช้ระบบ TOU เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดไฟ คุ้มไว โซล่า พร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบระบบที่เหมาะสม และดูแลการขอมิเตอร์ TOU ให้ครบวงจร ตั้งแต่สำรวจหน้างาน ติดตั้ง ไปจนถึงขออนุญาตการไฟฟ้า ช่วยลดค่าไฟในระยะยาว และเป็นอีกหนึ่งแนวทางสู่การใช้พลังงานอย่างชาญฉลาดในยุคพลังงานแพงอีกด้วยครับ